Oriental Heritage Furniture: Timeless treasure for the home …. งานศิลป์ชิ้นเอกจาก โลตัส อาร์ต เดอ วีฟร์
รอล์ฟ วอน บูเรน (Rolf von Bueren) ผู้ก่อตั้งแบรนด์ โลตัส อาร์ต เดอ วีฟร์ เริ่มสะสมเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์ศิลปะตะวันออกมาเป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษ โดยเริ่มต้นจากการที่ได้เดินทางไปเยือนประเทศจีนและญี่ปุ่น เพื่อค้นหาสไตล์ เทคนิคการสร้างสรรค์ รวมถึงมุมมองจากช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ โดยสิ่งที่ได้ถูกเก็บรวบรวมไว้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประกอบไปด้วยชิ้นงานที่สะท้อนให้เห็นถึงสุนทรียศาสตร์ของไอเทมส์เครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โต๊ะไม้โรสวูดที่ทรงคุณค่าในกลุ่มนักสะสมทั่วโลก และเครื่องเขินเคลือบรักแบบญี่ปุ่นซึ่งใช้เทคนิคการเคลือบอันเลื่องลือแห่งแดนอาทิตย์อุทัยมาแต่โบราณ
โลตัส อาร์ต เดอ วีฟร์ ได้รวบรวมแต่ชิ้นงานคุณภาพเยี่ยมในหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นแหล่งที่มา อายุ คุณภาพของไม้ การออกแบบ การประดิษฐ์ชิ้นงาน และหัตถศิลป์ ประกอบกันจนก่อกำเนิดเป็นสิ่งที่หาได้ยากและล้ำค่าในหมู่นักสะสม รอล์ฟ วอน บูเรน ทราบดีว่าการจะได้มาซึ่งชิ้นงานชั้นดี จำเป็นจะต้องมีสายตาเฉียบคม มีความอดทนอย่างสูง เพราะต้องอาศัยระยะเวลายาวนานในการค้นหา จำเป็นต้องค้นคว้าข้อมูลและมีความรอบรู้ รวมทั้งจังหวะเวลาที่เหมาะสมกว่าจะได้มาครอบครอง อีกทั้งยังต้องมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เชี่ยวชาญซึ่งจะเป็นเสมือนดวงตาในการค้นหามาสเตอร์พีซเหล่านั้น มูลค่าของแต่ละชิ้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้สอย เพราะล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์และให้ความรื่นรมย์ที่แตกต่างกัน อีกทั้งยังสะท้อนถึงวิถีชีวิตของผู้ใช้ดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายในราชสำนัก ขุนนาง หรือคหบดีผู้มั่งมี
สิ่งที่ทำให้ชิ้นงานและเฟอร์นิเจอร์สไตล์ตะวันออกในคอลเลคชั่นที่โลตัส อาร์ต เดอ วีฟร์ สะสมไว้มีความล้ำค่านั้น เนื่องมาจากปัจจุบันไม้เนื้อแข็งทั่วโลกเริ่มหาได้ยาก จึงไม่สามารถสร้างสรรค์ชิ้นงานใหม่ๆ ได้อีก รวมทั้งเครื่องเรือนส่วนใหญ่ที่พบในประเทศญี่ปุ่น แท้จริงแล้วได้ถูกรังสรรค์ขึ้นในประเทศจีนเมื่อประมาณ 200-300 ปีก่อน แล้วจึงนำส่งออกไปที่ญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักสะสมเฟอร์นิเจอร์ไม้โบราณจากนานาประเทศ จึงทำให้งานชิ้นเด่นๆ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงชิ้นงานที่นำมาประดิษฐ์ใหม่จากวัสดุโบราณก็มีความทรงคุณค่าด้วยเช่นเดียวกัน
เฟอร์นิเจอร์และไอเทมส์ตกแต่งบ้านสไตล์ตะวันออกชิ้นเด่น ของโลตัส อาร์ต เดอ วีฟร์ ที่ควรค่าแก่นักสะสมต้องมีไว้ครอบครอง อาทิ
1 I Bonsai Lamp with Japanese Fans
โคมไฟต้นบอนไซ ประดับใบด้วยพัดญี่ปุ่นโบราณวาดลายจากต้นศตวรรษที่ 19 ลำต้นของบอนไซแต่งสีทองตั้งอยู่บนกระถางสีดำ มาพร้อมอรรถประโยชน์ที่สามารถประดับเป็นงานศิลป์ตกแต่งบ้านในช่วงเวลากลางวัน และสามารถใช้เป็นโคมไฟส่องสว่างสร้างบรรยากาศแห่งความหรูหราในยามค่ำคืน โคมไฟชิ้นนี้ต้องใช้เวลารังสรรค์ขึ้นใหม่เป็นเวลาถึง 1.5 เดือนรวมระยะเวลา ตั้งแต่ขั้นตอนในการออกแบบงานศิลป์จนถึงการผลิตชิ้นงานจนเสร็จสมบูรณ์ ด้วยความร่วมมือของนักออกแบบและช่างชั้นครูถึง 9 คนด้วยกัน
2 I Bonsai tree with Scallop Shells
ต้นบอนไซที่ผลิใบด้วยเปลือกของหอยเชลล์ งานฝีมือสุดประณีต ในขณะที่ลำต้นรังสรรค์ขึ้นจากเงินสเตอร์ลิง ในกระถางสไตล์ญี่ปุ่น ผลงานชิ้นนี้ใช้เวลาในการชุบชีวิตให้กลายเป็นต้นไม้อันงดงามด้วยงานศิลป์กว่า 6 เดือน ด้วยฝีมือของนักออกแบบและช่างฝีมือมากทักษะและประสบการณ์กว่า 20 ชีวิต
3 I Lotus Leaf Lamp
โคมไฟใบบัวที่จะสะกดทุกสายตา ประดับในแจกันดินเผาเพ้นท์สีและวาดลวดลายบนพื้นผิวให้กลมกลืนกับดีไซน์ของใบบัว ดอกบัวมีสองรูปแบบคือดอกบัวแห้งระสีทองทั้งดอกและก้าน ในขณะที่อีกแบบเป็นดอกบัวที่หุ้มด้วยกระดาษสาบนก้านทองเหลืองหุ้มด้วยผ้า เป็นโคมไฟให้แสงสว่างในช่วงค่ำคืนและเปลี่ยนเป็นชิ้นงานศิลปะประดับบ้านในเวลากลางวันโคมไฟชิ้นนี้ใช้เวลารังสรรค์เป็นเวลากว่าเดือนครึ่ง ตั้งแต่ขั้นตอนในการออกแบบงานศิลป์จนถึงการผลิตชิ้นงานจนเสร็จสมบูรณ์ ด้วยความร่วมมือของนักออกแบบและช่างชั้นครูกว่า 9 คนด้วยกัน
4 I Chimpanzee Sculpture/Table with ‘Box’ Wood
ชิ้นงานศิลป์จากไม้ Box Wood ในรูปทรงดั้งเดิมจากธรรมชาติ ถูกนำมาออกแบบใหม่และประดับด้วยเงินสเตอร์ลิง ก่อกำเนิดเป็นชิ้นงานศิลป์ของลิงชิมแปนซี ที่สามารถใช้เป็นงานประติมากรรมประดับบ้าน หรือจะปรับให้เป็นโต๊ะ coffee table แบบเตี้ยเพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ทรงคุณค่าน่าสะสมเพราะหลังจากที่ต้องใช้เวลาค้นหาและคัดสรรไม้ Box Wood ที่มีรูปทรงสวยงามตามธรรมชาติอย่างยาวนานแล้ว จะต้องนำมารังสรรค์ใหม่อย่างพิถีพิถันโดยใช้เวลานานถึง 10 สัปดาห์ ด้วยฝีมือของนักออกแบบและช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญถึง 8 ชีวิต
5 I Bamboo Stool with Gold Leaf
เก้าอี้สตูลไม้ไผ่สานรูปทรงร่วมสมัยที่แฝงไปด้วยความหรูหรา การสร้างสรรค์ชิ้นงานจากไม้ไผ่สานนั้น ไม้ไผ่จะถูกตัด ก่อนจะปอกเปลือก และฝานเพื่อให้ได้ส่วนที่เป็นเส้นใย ถักทอเข้าด้วยกันและเสริมความแข็งแรงด้วยเรซิน แต่งแต้มด้วยใบไม้สีทองเพิ่มความสวยงามยิ่งขึ้น สตูลนี้ใช้เวลาถึง 2-3 สัปดาห์ในการสร้างสรรค์จนเสร็จสมบูรณ์
6 I Japanese Lacquer Cabinet with Bamboo Forest Motifs
ตู้เคลือบรักญี่ปุ่นแต่งลายป่าไผ่สไตล์สมัยยุคเมจิ (ปี ค.ศ. 1868 – 1912) ผลิตขึ้นในช่วงราวปี ค.ศ. 1880-1900 ในส่วนของชั้นวางของถูกรังสรรค์ขึ้นจากไม้โรสวูด ผ่านกรรมวิธีการเคลือบด้วยเทคนิคการแบบญี่ปุ่นโบราณที่เรียกว่ามากิเอะอันมีความสลับซับซ้อน โรยด้วยผงเงินหรือทองลงบนแล็กเกอร์จนเกิดความหนาเพื่อแต่งลาย ซึ่งเป็นกรรมวิธีที่ต้องใช้เวลานานและมีความประณีตสูง
สำหรับผู้สนใจ สามารถสัมผัสชิ้นงานและเฟอร์นิเจอร์สไตล์ศิลปะตะวันออกระดับมาสเตอร์พีซสุดหายากได้แล้วตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 ณ Theatre of Indulgence Gallery (พระราม 3) ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 10.00 น. – 17.00 น.
โดยติดต่อนัดหมายเพื่อเข้าชมได้ที่ โทร 089-667-6077 หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.lotusartsdevivre.com
