Cartier เป็นตัวเลือกของนักสะสมนาฬิกามาโดยตลอด ซึ่งเชี่ยวชาญสไตล์ในการสร้างสรรค์นาฬิกาคลาสสิกขึ้นมาใหม่ และก็มีการผสมผสานสไตล์ที่เพียงพอ เพื่อรักษาความเกี่ยวข้องในบรรยากาศ du journ แต่นั่นยังไม่เพียงพอที่จะอธิบายความต้องการนาฬิกาที่เพิ่มขึ้นมหาศาล ตามรายงานนาฬิกาประจำปีของปีที่แล้วโดย Morgan Stanley ปัจจุบัน Cartier กลายเป็นแบรนด์นาฬิกาที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเมื่อพิจารณาจากรายได้ ตามหลัง Rolex
Tank Normale รุ่นใหม่ที่เปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ ซึ่งในตอนแรกดูเหมือนจะเป็นแบบจำลองที่ค่อนข้างตรงตามต้นฉบับปี 1917 ยกเว้นเวอร์ชันที่เป็นแพลตตินัม (ในภาพ) และเยลโลว์โกลด์ 18 กะรัต ซึ่งเป็นครั้งแรกในคอลเลกชั่น Cartier Privé มาในสร้อยข้อมือที่เข้ากัน นอกจากนี้ยังมีการทำซ้ำโครงกระดูกสามครั้งที่มีภาวะแทรกซ้อนตลอด 24 ชั่วโมงในแพลตตินัม ทองคำเยลโลว์โกลด์ 18 กะรัต และแพลตตินัมและเพชร ทั้งหมดมีจำนวนจำกัดอยู่ที่ 100, 50 หรือ 20 รุ่น ขึ้นอยู่กับสไตล์และมีราคา ตั้งแต่ 30,150 ถึง 107,000 ดอลลาร์
Cartier always a collector’s darling, has mastered the recipe for reinventing its classics while infusing them with just enough edge to maintain relevance within the vibe du journbut that’s still not enough to explain the massive surge in demand for its watches. According to last year’s annual watch report by Morgan Stanley, Cartier is now the second-largest watch brand globally, based on revenue, behind Rolex.
The new Tank Normale released earlier this year, which at first appears to be a fairly faithful ode to the 1917 original except for the versions in platinum (pictured) and 18-karat yellow gold that, for the first time in the Cartier Privé collection, come on matching bracelets. There are also three skeletonized iterations featuring a 24-hour complication, in platinum, 18-karat yellow gold, and platinum and diamonds. All are limited in editions of 100, 50, or 20, depending on the style and range in price from $30,150 to $107,000.
