ความรุ่งเรืองของงานเซรามิกในรัฐแคลิฟอร์เนีย

ในปี 1988 ศิลปิน Tony Marsh ได้เข้าเรียนที่ California State University, Long Beach โดยมีเป้าหมายที่จะขยายความรู้ของเขาในเรื่องเซรามิก เขาเสนอพื้นที่สตูดิโอและการเข้าไปชมเตาเผาให้กับศิลปินที่ใคร่รู้ฟรี เพื่อส่งเสริมกลุ่มคนที่มีความสามารถเช่น Roger Herman, Ruby Neri และ Jennifer Rochlin ศิลปินเหล่านี้ ได้รับอิทธิพลมาจาก Viola Frey และคนอื่นๆ ผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างนิยามใหม่ให้กับงานศิลปะดินเหนียวในแคลิฟอร์เนียนับตั้งแต่ทศวรรษ 1960 คนรุ่นปัจจุบัน รวมถึง Julia Haft-Candell และ Sharif Farrag ยอมรับความเชื่อมั่นและได้รับความประทับใจจากงานศิลปะของดินเหนียว ในขณะที่บางคนก็คิดค้นรูปทรงต่างๆ ของภาชนะ บ้างก็คอยช่วยผลักดันและสนับสนุนในงานศิลปะชนิดนี้อย่างเป็นทางการ ตัวอย่างเช่น Neri ซึ่งใช้พู่กันและปืนพ่นสีในการเคลือบ ช่างเซรามิกต่างๆ ในรัฐแคลิฟอร์เนียยังให้ความสำคัญกับชุมชนด้วยการแบ่งปันเตาเผา และสร้างสายสัมพันธ์ทางครอบครัวในการเดินทางมาชมศิลปะของพวกเขา

จากบทความโดย Julie Belcove

In 1988, artist Tony Marsh joined California State University, Long Beach, aiming to expand the appeal of ceramics. He offered free studio space and kiln access to curious artists, fostering a community of talents like Roger Herman, Ruby Neri, and Jennifer Rochlin. These artists, influenced by Viola Frey and others, played a crucial role in redefining clay art in California since the ’60s. The current generation, including Julia Haft-Candell and Sharif Farrag, embraces clay’s physicality and surprises. While some explore vessel forms, others push formal boundaries, like Neri, who uses airbrush and paint gun for glazing. California’s ceramists also emphasize community, sharing kilns and forming familial bonds in their artistic journey.

From the article by Julie Belcove